ผวจ.ฉะเชิงเทรา
ระบุ ขณะนี้น้ำเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดแล้ว คาดอีก 1-2
วันน้ำจากจังหวัดปราจีนบุรีจะมาถึง ส่วนกองทัพพร้อมช่วยประชาช
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราขณะ
นี้มีน้ำเอ่อเข้าท่วมแล้วใน 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง บางคล้า บางน้ำเปรี้ยว
และพนมสารคาม จำนวน 16 ตำบล 150 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบแล้ว 17,459
ครัวเรือน พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย 23,023 ไร่
ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทราจะต้องรับน้ำจากจังหวัดปราจีนบุรี และนครนายก ลงสู่แม่น้ำบางปะกง คาดว่าน้ำจะมาจากจังหวัดปราจีนบุรี ใน 1-2 วันนี้ทำให้แม่น้ำบางปะกง มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนพื้นที่ที่จะต้องรับน้ำจากคลอง 13-17 ของกรุงเทพมหานคร ลงสู่คลองด่าน จังหวัดสมุทราปราการ ขณะนี้กรุงเทพมหานคร ลดการระบายน้ำเข้าคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำในคลองดังกล่าวมีระดับค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าลงพื้นที่ ดูแลอย่างใกล้ชิด เสริมเครื่องสูบน้ำรวม78 เครื่อง เสริมความสูงของถนนไม่ให้น้ำกลับเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังได้แจกกระสอบทราย และเรือ กว่า 150 ลำกับประชาชน
รมช.มหาดไทยลุยตรวจพื้นที่
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (24 ก.ย.) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง จะเดินทางจากการติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดปราจีนบุรี มายังพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะติดตามสถานการณ์บริเวณรอยต่อของประตูระบายน้ำที่สำคัญที่เป็นรอยต่อของพื้นที่กรุงเทพมหานครและฉะเชิงเทราด้วย
สถาการณ์น้ำอยุธยาทรงตัว
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นาย อุดมศักดิ์ ขาวหนูนา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งให้ทุกอำเภอสำรวจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้น ตลิ่งให้เร็วที่สุด คือภายในสัปดาห์หน้า เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบ และเตรียมช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่เริ่มทรงตัว ไม่น่าวิตกแต่อย่างใด
“จำนวน ประชากรที่อยู่ในบ้าน และหมู่บ้าน ซึ่งไม่เกินสัปดาห์หน้า ทางรัฐบาลจะสั่งการให้สำรวจ พร้อมเร่งจ่ายเงินให้เร็วที่สุด จึงขอให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจ เนื่องจากขณะนี้น้ำเริ่มลดลงแล้ว”
ส่วนสถานการณ์น้ำในวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้าเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร เพิ่มขึ้น 5-10 เซนติเมตร แม่น้าน้อยตั้งแต่ อ.ผักไห่ เสนา บางบาล ระดับน้ำทรงตัว แม่น้าลพบุรี ตั้งแต่ อ.บ้านแพรก มหาราช ลดลงเล็กน้อย และแม่น้าป่าสัก ลดลง เช่นกัน ส่วนประตูระบายน้ำ บางกุ้ง ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล ประตูระบายน้ำ ซี 36 คลองบางหลวง อำเภอบางบาล ประตูระบายน้ำ ซี 37 ตำบลคลองบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา และ ประตูระบายน้ำบ้านแขก ตำบลบางไทร ระดับน้ำล้นตลิ่งเล็กน้อย
กองทัพบก พร้อมช่วยเหลือประชาชน
ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสระแก้ว และปราจีนบุรี ว่า กองทัพได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่วันแรก เพราะมีน้ำไหลมาจากภูเขาทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อ ล้นท่วมพื้นที่ และจะไหลลงสู่ภาคกลาง หากมีฝนตกอาจท่วมขังในพื้นที่ได้ จึงต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยจะต้องดูระบบการระบายน้ำว่าดำเนินการได้ดีหรือไม่ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ซึ่งทางกองทัพพร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นาย เดชฤทธ์ ปัญจะมูล เปิดเผย สถานการณ์น้ำในอำเภอศรีมหาโพธิ เช้าวันนี้(24 ก.ย.) ว่า ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและกำลังจะไหลลงพื้นที่อำเภอเมือง ทางจังหวัดได้เตรียมรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ และได้ประตูระบายน้ำหาดยางในระดับที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรมาก นัก โดยจะประเมินปรับระดับควบคู่กับปริมาณน้ำที่จะไหลมาเพิ่มเติม
เบื้องต้น ประชาชนยังสามารถรับสถานการณ์ได้ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลและจังหวัด ได้รับความช่วยเหลือจากทหารและตำรวจ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและวางกระสอบทรายเน้นป้องกันสถานศึกษา โรงพยาบาล วัดและโบราณสถาที่สำคัญ
ส่วนความเสียหายมากที่สุดคือพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี น้ำท่วม 11 ตำบลจาก 14 ตำบล ไร่นาเสียหายประมาณ 20,000 ไร่ อำเภอศรีมหาโพธิน้ำท่วม 4 -5 ตำบล มูลค่าความเสียหายต้องรอสำรวจอีกครั้ง เพื่อดำเนินการเยียวยาและฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไป
ปภ.เผยมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 12 จังหวัด
ศูนย์ อำนวยการบรรเทาสาธารณภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยสถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 12 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี นครปฐม สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ สุพรรณบุรี อ่าทอง พระนครศรีอยุธยา ชัยภูมิ พิจิตร และ จ.นครนายก รวม 38 อำเภอ 269 ตำบล 1,766 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 75,994 ครัวเรือน 186,508 คน
ส่วน การติดตามความช่วยเหลือ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ได้ประสานจังหวัดประสบอุทกภัย ตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า รายงานข้อมูลสถานการณ์ภัย และการให้ความช่วยเหลือผ่านระบบอี-รีพอร์ต ของสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช. พร้อมเปิดรับแจ้งเหตุทางสายด่วนนิรภัย 1784 รวมถึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องจักรกล สนับสนุนการช่วยเหลือในพื้นที่
ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทราจะต้องรับน้ำจากจังหวัดปราจีนบุรี และนครนายก ลงสู่แม่น้ำบางปะกง คาดว่าน้ำจะมาจากจังหวัดปราจีนบุรี ใน 1-2 วันนี้ทำให้แม่น้ำบางปะกง มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนพื้นที่ที่จะต้องรับน้ำจากคลอง 13-17 ของกรุงเทพมหานคร ลงสู่คลองด่าน จังหวัดสมุทราปราการ ขณะนี้กรุงเทพมหานคร ลดการระบายน้ำเข้าคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำในคลองดังกล่าวมีระดับค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าลงพื้นที่ ดูแลอย่างใกล้ชิด เสริมเครื่องสูบน้ำรวม78 เครื่อง เสริมความสูงของถนนไม่ให้น้ำกลับเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังได้แจกกระสอบทราย และเรือ กว่า 150 ลำกับประชาชน
รมช.มหาดไทยลุยตรวจพื้นที่
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (24 ก.ย.) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง จะเดินทางจากการติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดปราจีนบุรี มายังพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะติดตามสถานการณ์บริเวณรอยต่อของประตูระบายน้ำที่สำคัญที่เป็นรอยต่อของพื้นที่กรุงเทพมหานครและฉะเชิงเทราด้วย
สถาการณ์น้ำอยุธยาทรงตัว
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นาย อุดมศักดิ์ ขาวหนูนา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งให้ทุกอำเภอสำรวจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้น ตลิ่งให้เร็วที่สุด คือภายในสัปดาห์หน้า เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบ และเตรียมช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่เริ่มทรงตัว ไม่น่าวิตกแต่อย่างใด
“จำนวน ประชากรที่อยู่ในบ้าน และหมู่บ้าน ซึ่งไม่เกินสัปดาห์หน้า ทางรัฐบาลจะสั่งการให้สำรวจ พร้อมเร่งจ่ายเงินให้เร็วที่สุด จึงขอให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจ เนื่องจากขณะนี้น้ำเริ่มลดลงแล้ว”
ส่วนสถานการณ์น้ำในวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้าเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร เพิ่มขึ้น 5-10 เซนติเมตร แม่น้าน้อยตั้งแต่ อ.ผักไห่ เสนา บางบาล ระดับน้ำทรงตัว แม่น้าลพบุรี ตั้งแต่ อ.บ้านแพรก มหาราช ลดลงเล็กน้อย และแม่น้าป่าสัก ลดลง เช่นกัน ส่วนประตูระบายน้ำ บางกุ้ง ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล ประตูระบายน้ำ ซี 36 คลองบางหลวง อำเภอบางบาล ประตูระบายน้ำ ซี 37 ตำบลคลองบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา และ ประตูระบายน้ำบ้านแขก ตำบลบางไทร ระดับน้ำล้นตลิ่งเล็กน้อย
กองทัพบก พร้อมช่วยเหลือประชาชน
ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสระแก้ว และปราจีนบุรี ว่า กองทัพได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่วันแรก เพราะมีน้ำไหลมาจากภูเขาทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อ ล้นท่วมพื้นที่ และจะไหลลงสู่ภาคกลาง หากมีฝนตกอาจท่วมขังในพื้นที่ได้ จึงต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยจะต้องดูระบบการระบายน้ำว่าดำเนินการได้ดีหรือไม่ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ซึ่งทางกองทัพพร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นาย เดชฤทธ์ ปัญจะมูล เปิดเผย สถานการณ์น้ำในอำเภอศรีมหาโพธิ เช้าวันนี้(24 ก.ย.) ว่า ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและกำลังจะไหลลงพื้นที่อำเภอเมือง ทางจังหวัดได้เตรียมรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ และได้ประตูระบายน้ำหาดยางในระดับที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรมาก นัก โดยจะประเมินปรับระดับควบคู่กับปริมาณน้ำที่จะไหลมาเพิ่มเติม
เบื้องต้น ประชาชนยังสามารถรับสถานการณ์ได้ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลและจังหวัด ได้รับความช่วยเหลือจากทหารและตำรวจ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและวางกระสอบทรายเน้นป้องกันสถานศึกษา โรงพยาบาล วัดและโบราณสถาที่สำคัญ
ส่วนความเสียหายมากที่สุดคือพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี น้ำท่วม 11 ตำบลจาก 14 ตำบล ไร่นาเสียหายประมาณ 20,000 ไร่ อำเภอศรีมหาโพธิน้ำท่วม 4 -5 ตำบล มูลค่าความเสียหายต้องรอสำรวจอีกครั้ง เพื่อดำเนินการเยียวยาและฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไป
ปภ.เผยมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 12 จังหวัด
ศูนย์ อำนวยการบรรเทาสาธารณภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยสถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 12 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี นครปฐม สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ สุพรรณบุรี อ่าทอง พระนครศรีอยุธยา ชัยภูมิ พิจิตร และ จ.นครนายก รวม 38 อำเภอ 269 ตำบล 1,766 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 75,994 ครัวเรือน 186,508 คน
ส่วน การติดตามความช่วยเหลือ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ได้ประสานจังหวัดประสบอุทกภัย ตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า รายงานข้อมูลสถานการณ์ภัย และการให้ความช่วยเหลือผ่านระบบอี-รีพอร์ต ของสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช. พร้อมเปิดรับแจ้งเหตุทางสายด่วนนิรภัย 1784 รวมถึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องจักรกล สนับสนุนการช่วยเหลือในพื้นที่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น