คลื่นความร้อนซึ่งเคลื่อนตัวมาจากฝั่งตะวันตกส่งผลให้พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียมีสภาพอากาศร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ และทำให้ไฟป่าหลายร้อยจุดยิ่งลุกลามขยายวง
ซิดนีย์ซึ่งเป็นมหานครอันดับ 1 ของออสเตรเลียต้องเผชิญกับหมอกควันพิษจากไฟป่าทั้งทางด้านเหนือ, ใต้ และตะวันตก โดยบางจุดนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ 130 กิโลเมตร
อุณหภูมิที่รัฐนิวเซาท์เวลส์วันนี้ (21) คาดว่าจะพุ่งสูงสุดถึง 47 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ รวมถึงทางฝั่งตะวันตกของนครซิดนีย์
ออสเตรเลียเกิดไฟป่าอยู่เป็นประจำทุกปี ทว่าฤดูไฟป่าปีนี้ถือว่ามาเร็วและรุนแรงกว่าที่เคย อีกทั้งสภาพอากาศก็ยังร้อนทุบสถิติ ทำให้หลายฝ่ายวิตกถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน
ไฟป่าได้เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ป่าในออสเตรเลียไปแล้วอย่างน้อย 3 ล้านเฮกตาร์ หรือขนาดพอๆ กับประเทศเบลเยียม โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และบ้านเรือนถูกเผาวอดไปอีกกว่า 800 หลัง
ไฟป่าขนาดยักษ์ (mega fire) ซึ่งเผาทำลายพื้นที่ 460,000 เฮกตาร์ทางตอนเหนือของซิดนีย์มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้นในวันนี้ (21) เช่นเดียวกับไฟป่าอีกหลายจุดในเขตบลูเมาน์เทนส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยอมรับว่ายังไม่ทราบว่ามีสิ่งปลูกสร้างเสียหายไปแล้วมากน้อยเท่าไหร่
เชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ ผู้บัญชาการสำนักงานดับเพลิงชนบทแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า กระแสลมที่เปลี่ยนทิศในช่วงบ่ายอาจทำให้ภารกิจของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 3,000 นายยิ่ง “ยากลำบาก อันตราย และคาดเดาได้ยากขึ้น”
รัฐเซาท์ออสเตรเลียก็เผชิญคลื่นความร้อนอย่างรุนแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,500 นายกำลังเร่งต่อสู้กับไฟป่าซึ่งกินพื้นที่มากกว่า 40,000 เฮกตาร์
ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้ว 2 รายในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยดับเพลิงและชาวบ้านอีกหลายสิบคนถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บหรือสูดดมควันพิษเข้าไป
คณะแพทย์ได้ประกาศ “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข” ในนครซิดนีย์ ซึ่งเผชิญฝุ่นควันพิษจากไฟป่ารุนแรงยิ่งกว่าทุกครั้ง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น